Neurotechnology (เทคโนโลยีสมอง) คือกลุ่มของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการใช้ระบบประมวลผลสมองและส่วนประสาทในการค้นคว้าหรือปรับปรุงฟังก์ชันสมองและระบบประสาทของมนุษย์ หรือสัตว์อื่น ๆ ในหลายทัศนคติต่าง ๆ รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการศึกษาโครงสร้างและการทำงานของสมองและระบบประสาทอย่างละเอียด โดยใช้เครื่องมือและเทคนิคที่ใช้ในการวัดและควบคุมกิจกรรมสมองและระบบประสาทต่าง ๆ
Neurotechnology มีการประยุกต์ใช้ในหลายแดนของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมถึงการแก้ไขสมองด้วยการส่งสัญญาณไฟฟ้า (ที่เรียกว่าส่วนสำคัญของการวิจัยที่เรียกว่าสมองปรับปรุงหรือ Brain-Computer Interface), การพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสมองเทียม (neuromodulation technology) เพื่อรักษาโรคหรือรักษาอาการผิดปกติทางสมอง การใช้ระบบประมวลผลภาพของสมอง (neuroimaging) เพื่อศึกษาโรคหรือการทำงานของสมอง และอื่น ๆ
Neurotechnology มีศักยภาพในการช่วยในการแก้ไขปัญหาทางสุขภาพเช่นสมองเสื่อม (Alzheimer's disease), อัมพฤกษ์ (Parkinson's disease), การบรรลุการเดิน (paraplegia), และการสื่อสารกับคนที่มีความบกพร่องในการพูดหรือการเคลื่อนไหว อีกทั้งยังมีการใช้ในด้านวิทยาศาสตร์ทำความเข้าใจกับสมองและระบบประสาทมากขึ้น และเปิดโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสมองและส่วนประสาทในองค์กรและสถาบันต่าง ๆ ในทั่วโลกในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมในอนาคตได้ที่แม้ว่ายังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนาและการใช้งาน
Neurotechnology มีความสำคัญมากในปัจจุบันด้วยหลายเหตุผล ดังนี้
1.การรักษาโรคและผู้รักษาสุขภาพ การใช้เทคโนโลยีทางสมองเช่น neuromodulation technology และ Brain-Computer Interface (BCI) มีศักยภาพในการรักษาหรือการบรรลุความหายของโรคทางสมองและระบบประสาท เช่น Parkinson's disease, epilepsy, spinal cord injuries, และอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
2.การศึกษาสมองและระบบประสาท การใช้ neuroimaging เพื่อศึกษาโครงสร้างและการทำงานของสมองมนุษย์ช่วยให้เราเข้าใจหลักการทำงานของสมองและระบบประสาทมากขึ้น และมีการประยุกต์ใช้ในการศึกษาสมองและสมองเทียมในหลายด้านวิทยาศาสตร์ เช่น เพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับการเรียนรู้, ความจำ, และการปรับปรุงสมองของมนุษย์
3.การพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม Neurotechnology มีการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมเช่น การควบคุมเทคโนโลยีในรถยนต์อัตโนมัติโดยใช้สมองแบบ BCI, การสร้างอุปกรณ์สวมใส่ (wearable devices) เพื่อวัดสุขภาพทางสมองและการติดตามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
4.การพัฒนาและการศึกษากับโรคจิตเวชNeurotechnology มีศักยภาพในการช่วยในการเข้าใจและรักษาโรคจิตเวช เช่น ซึ่งประกอบไปด้วยภาวะสภาวะจิตประปราบ (schizophrenia), โรคซึมเศร้า (depression), สมองสัมผัส (autism), และอื่น ๆ
5.การพัฒนานวัตกรรมใหม่ Neurotechnology เปิดโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ในหลายด้าน รวมถึงการปรับปรุงความสามารถของมนุษย์ เช่น การเสริมสมองด้วยส่วนสำคัญของการปรับปรุงสมองหรือ brain enhancement และการสร้างอุปกรณ์หรือแอปพลิเคชันที่ใช้งานโดยใช้สมองแบบ BCI
6.การปรับปรุงคุณภาพชีวิต Neurotechnology มีศักยภาพในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้รักษาโรคหรือผู้ที่มีความบกพร่องในการเคลื่อนไหวหรือการสื่อสาร, และมีความสำคัญในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
Neurotechnology ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายแดนของวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมและมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและสิ่งด้านสุขภาพในอนาคต